ยกระดับการรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียมแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในอาเซียน

บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด ผนึกพันธมิตร บริษัท แองโก เอเชีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท และมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R)

คุณสาโรช ชยาวิวัฒน์กุล (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด และดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี (ขวา) ประธาน มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R)

4 พันธมิตรร่วมประกาศความพร้อม ชูนวัตกรรมและกระบวนการจัดการขยะกระป๋องอลูมิเนียมที่ได้มาตรฐานระดับสากลและครบวงจร โดยการนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล จากนั้นนำไปขึ้นรูปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดปริมาณขยะอย่างยั่งยืน โดยหากได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลก็จะช่วยสร้างประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ผ่านการขับเคลื่อนประเทศแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จากกระป๋องอลูมิเนียมต่อไป

คุณสาโรช ชยาวิวัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด หรือ ทีบีซี ในฐานะผู้นำในตลาดบรรจุภัณฑ์กระป๋องและฝาอลูมิเนียมชั้นนำของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบและผู้นำด้านความยั่งยืนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ โดยร่วมมือกับทั้ง 4 องค์กรที่มีความตั้งใจเดียวกันในการลดปริมาณขยะ นำเทคโนโลยีด้านการรีไซเคิลที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเปลี่ยนขยะกระป๋องอลูมิเนียมให้กลับมาเป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 100% เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เพื่อลดโอกาสที่ขยะจะถูกนำไปฝังกลบหรือหลุดไปเป็นขยะในทะเล

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการผลิตกระป๋องอลูมิเนียมประมาณ 6,500 ล้านกระป๋องต่อปี แบ่งเป็น 50% สำหรับส่งออกไปต่างประเทศ ส่วนอีก 50% จะวนอยู่ในประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นประเทศหนึ่งเดียวในอาเซียนที่มีความพร้อมในการจัดการขยะกระป๋องอลูมิเนียมได้อย่างครบวงจร ผ่านความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เริ่มต้นการรีไซเคิลโดย บริษัท แองโก เอเชีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ที่พร้อมให้บริการรีไซเคิลเศษกระป๋องอลูมิเนียม ตั้งแต่ขั้นตอนการนำกระป๋องอลูมิเนียมที่ถูกคัดแยกออกจากวัสดุอื่นๆ ผ่านเครื่องคัดแยก และทำความสะอาด มาเข้าเครื่องตัด บดให้เป็นชิ้นเล็กๆ ป้อนเข้าสู่กระบวนการขจัดสีและแล็กเกอร์ ที่เคลือบอยู่ จากนั้นนำเศษอลูมิเนียมที่ได้ไปเข้าเตาหลอมที่มีประสิทธิภาพ ผ่านกระบวนการผลิตได้มาตรฐานจากวัตถุดิบรีไซเคิลสูงถึง 99% และส่งต่อไปยัง บริษัท ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานผลิตแผ่นอลูมิเนียมชั้นนำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ดำเนินการต่อในกระบวนการหล่อวัตถุดิบในอุณหภูมิสูงถึง 730 องศาเซลเซียส เพื่อความสะอาดปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อน และเข้าสู่กระบวนการรีดเป็นแผ่นอลูมิเนียมโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ภายใต้ความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานที่ได้บ่มเพาะมาเป็นเวลานาน ขณะที่ทางทีบีซีจะทำการขึ้นรูปทรงกระป๋องใบใหม่สำหรับบรรจุเครื่องดื่มต่อไป

ทั้ง 4 องค์กร พร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนภายใต้กรอบความยั่งยืน ผ่านการวิจัย และสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด พร้อมรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

การรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียมส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่

  • ด้านเศรษฐกิจเสริมสร้างการจ้างงานในอุตสาหกรรมรีไซเคิล ส่งเสริมอาชีพรับซื้อขยะรีไซเคิลทั้งร้านรับซื้อของเก่า และซาเล้ง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 150,000 รายทั่วประเทศ อีกทั้งยังลดต้นทุนในการผลิตและการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ
  • ด้านสังคมสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคในการช่วยกันเพิ่มการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วให้ถูกต้อง กระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาบูรณาการใช้นโยบายและระบบบริหารจัดการขยะอย่างจริงจัง
  • ด้านสิ่งแวดล้อมลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยเฉพาะผลกระทบจากการทำเหมืองอลูมิเนียม อีกทั้งยังลดปริมาณขยะฝังกลบและขยะที่หลุดไปในทะเล นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ด้าน ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเน้นการรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียมแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบการนำขยะกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปริมาณขยะโดยรวมในระบบ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของมูลนิธิ 3R ในฐานะองค์กรในการผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด 3R ประกอบไปด้วย การลดการใช้ (Reduce) เพิ่มการใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) พร้อมส่งเสริมแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์และการพัฒนานวัตกรรมตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy เพิ่มการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ควบคู่การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจในประเทศไทย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการจัดการขยะ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนต่อไป”

ความร่วมมือในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาขยะอย่างยั่งยืนของภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมผลักดันให้ “การรีไซเคิลกระป๋องอลูมิเนียม” เป็นหนึ่งในต้นแบบการจัดการขยะ ซึ่งหากรัฐบาลให้การสนับสนุนการรีไซเคิลกระป๋องอะชลูมิเนียมก็จะช่วยผลักดันให้เกิดการรีไซเคิลในประเทศมากขึ้น ถือเป็นการสร้างประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ได้อย่างยั่งยืน

Facebook
Twitter
LinkedIn